ไซโต้ ยูกิ (ยูจัง) ซึ่งมีฉายาที่ตั้งโดยสื่อทั้งหลายว่า
"เจ้าชายผ้าเช็ดหน้า"
ทำไมถึงเป็นผ้าเช็ดหน้า?
ในโคชิเอ็งปี 2006 ไซโต้ ยูกิ เป็นพิทเชอร์มือขวา
เป็นเอซของทีม วาเซดะจิทสึเกียว (โซจิทสึ)
(นิตยสารบ่งบอกถึงความเก่า)
ยูจังจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อกลางเนินขว้างตลอด
ไม่ได้ใช้แขนเสื้อเช็ดเหมือนพิทเชอร์คนอื่น
อาจจะเพราะชุดสีขาวของโซจิทสึ กลัวเลอะ อะไรแบบนี้
ขว้างคนเดียวตั้งแต่รอบแรกยันรอบชิงโคชิเอ็งปีนั้น
และรอบชิงโคชิเอ็งปีนั้น แข่งกับ โคมาซาว่าโทมะโคไม ที่มีเอซ
คือ ทานากะ มาซาฮิโระ เอซผู้ขว้างมือขวาเหมือนกัน (ชื่อเล่นภายหลังคือ มาคุง)
มาคุงเมื่อตอน2006 มาแจกความสดใส
ในรอบชิงชนะเลิศโคชิเอ็งหน้าร้อน
ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ใน15 อินนิ่ง และต้องแข่งใหม่ในวันรุ่งขึ้น อีก9 อินนิ่ง
และโซจิทสึชนะไปด้วยคะแนน 4-3 ในที่สุด
และเป็นแชมป์โคชิเอ็งในปีนั้น
รวมทั้งสิ้นที่ยูจังขว้างคนเดียวไป 69 อินนิ่ง
และในทุกๆเกมยังสามารถต้านไว้ไม่ให้เสียมากกว่า 3 รันได้ส่วนจำนวนลูกที่ขว้าง948ลูก (แต่เหมือนมาคุงจะ 1300....)
อันนี้ภาพในรายการสัมภาษณ์
ว่าทำไมถึงส่ายหัวปฏิเสธสัญญาณจากแคทเชอร์ ตอนขว้างลูกสุดท้าย
สกู๊ปเจ้าชายผ้าเช็ดหน้า
แปะวิดีโอเพลงจบโคชิเอ็ง 2006 ตอนนั้น ใช้เพลง
Kanade - Sukima Switch
Kanade - Sukima Switch
หากใครติดตามโปรเบสบอลตอนนี้ก็จะเห็นได้ว่ามีแต่คนคุ้นหน้าคุ้นตา
ในวัยเด็กทั้งนั้น
ในวัยเด็กทั้งนั้น
ยูจังไม่ได้ลงชื่อดราฟท์ แต่ลงชื่อจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยวาเซดะ
และเข้าเล่นในลีคมหาวิทยาลัยแทน
(จำนวนคนมาดักรอยูจังลงจากรถ เพื่อจะแถลงการณ์ว่า อนาคตจะไปไหนต่อ)
ส่วน
ทานากะ มาซาฮิโระ
บุคคลผู้ที่มีคนแย่งกันมากที่สุดถึง 4 ทีมทั้ง โยโกฮาม่า โอริกซ์ ระกุเต็น นิปป้งแฮมไฟเตอร์
สุดท้ายแล้ว ระกุเต็นก็ได้มา
ก็กลายเป็น เบอร์ 18 ระกุเต็นไปเรียบร้อย และเป็นเอซของระกุเต็นอีเกิ้ลในที่สุด
(ปัจจุบันเป็นพิทเชอร์อยู่ New York Yankees)
มาคุงวัยใส
ดราฟท์ปีนั้นถือว่าคนที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันอยู่กันเยอะมาก
เขาจะเรียกพวกนี้ว่า พวกรุ่นผ้าเช็ดหน้า (พวกที่เกิดปี1988 ปีเดียวกับยูจัง)
ปีนั้นก็จะมี
ฮิโรชิมะ คาร์ป - มาเอดะ เคนตะ
ลอตเต้ - โอมิเนะ ยูตะ
ไจแอนท์ - ซาคาโมโตะ ฮายาโตะ
โคชิเอ็งปีนั้นที่โผล่มาแบบเป็นรุ่นน้องก็มี นากาตะ โช(ไฟเตอร์)
พวกรุ่นนี้จะโหดมากในปัจจุบันค่ะ....
ทำไมถึงเป็น "ยูจัง"?
มันเป็นเพราะทานากะมาซาฮิโระตัวดี นี่ล่ะค่ะ
ไปบอกสื่อ ว่าตอนไปทีมชาติ 18Uด้วยกัน เรียกไซโต้ยูกิว่า ยูจัง
ยูจังเลยบอกว่า โค้ชเรียกทานากะว่า มาคุง ล่ะ
ชีวิตเบสบอลมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร?
เหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเลยค่ะ
ได้เป็นคนขว้างในเกมส์แรกในการเปิดการแข่งขัน ระหว่าง6มหาวิทยาลัยในโตเกียว
ทั้งๆที่อยู่ปี1 แล้วก็ชนะ
เรื่องที่เด่นๆก็จะมีทำชัทเอาท์ได้เยอะ เก็บแต้ม Winมาเรื่อยๆ
แพ้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
เรื่องที่เป็นที่โด่งดังในตอนมหาวิทยาลัยคือ สามารถทำให้ที่นั่งในสนามเต็มได้
คนซื้อบัตรไม่ทัน เพราะจะมาดูยูจังขว้าง
เรียกกันว่าเป็นอาการ "ยูจังฟีเวอร์" เลยทีเดียว
(จำนวนคนมาดูเกมที่ยูจังเป็นพิทเชอร์)
ในเวลาต่อมาก็ได้เป็นตัวแทนทีมชาติรุ่นมหาวิทยาลัย
ยูจังก็ยังคงใช้ผ้าเช็ดหน้าอยู่
ก็ไม่รู้จะเล่าอะไร เพราะเราไม่ได้ตามตอนมหาวิทยาลัยแบบละเอียด (นั่น)
ให้รู้ว่าคนๆนี้เก่งก็เพียงพอ
(ช่วงนั้นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าสีน้ำเงินก็ขายดีล่ะนะ)
การเป็นโปรเบสบอลของยูจัง
ยูจังเข้ามาตอนดราฟท์ 2010 (มหาวิทยาลัย ปี 4 แล้ว)
การเป็นโปรของยูจังก็คือ จะต้องไปเจอกับพวกคู่แข่งตอนม.ปลาย
ที่ปัจจุบันขัดเกลาฝีมือจนเทพกันแล้วนั่นเอง กดดันน่าดู
และแล้วยูจังก็ได้อยู่ทีมนิปป้งแฮมไฟเตอร์
(เข้ามารุ่นเดียวกับชิโอมิของระกุเต็นนะ 1988 เหมือนกัน)
หมายเลขที่เลือกคือ เบอร์ "18"
จะสังเกตได้ว่า เบอร์เดียวกับมาคุง ระกุเต็นอีเกิ้ล
จากสองคนนี้ในโคชิเอ็งตอนนั้น
มาคุง ล่ำบึ๊กมาก555555
สไตล์การเล่น
ยูจังเป็นพิทเชอร์มือขวาขว้างแบบโอเวอร์แฮนด์
ขว้างMAX150km/hr (สมัยก่อนนะ เดี๋ยวนี้ไม่รู้)ลูกที่ขว้างก็จะมี 4seam 2seam fastball
fork slider curve chane-up
เป็นผู้เล่นที่มีลูกพลิกแพลงหลากหลาย ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก
ข้อดีอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ สเตมิน่า พลังงานเหลือล้นมาก
สามารถขว้างติดต่อกันได่้200กว่าลูกในการแข่งเดียว (ถือว่าเยอะนะ)
ดูจากการที่ขว้างคนเดียวในโคชิเอ็งตอนม.ปลาย ก็เป็นตัวตัดสินเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
ชีวิตหลังเข้าโปร
ตอนเปิดตัวเหมือนจะดูดี เป็นผู้เล่นที่มีจิตใจเข้มแข็งดีงาม
อยู่ทีมเดียวกับ นากาตะ โช (ผู้เล่นที่โดนยูจังจัดการไปในโคชิเอ็งปี2006)
ปีแรกจบซีซั่นไปด้วย% ชนะ 6 แพ้ 6 จากการแข่ง 19 เกม ER 2.69 ไม่มากไม่น้อยสำหรับสตาร์ทเตอร์
(พูดถึงถ้าเป็นรูกกี้นี่ให้ลงเยอะเหมือนกันนะ)
การเป็นโปรมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใจคิด ผู้เล่นเก่งๆประสบการณ์สูงๆมีเพียบ
ประสบการณ์ในเบสบอลมหาวิทยาลัยนั้น ช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่
//// ปล. แต่ก็ยังขายดีอยู่นะ สินค้าอะไรพวกนี้ ขายหมดไวมาก
ยูจังก็ให้สัมภาษณ์ว่า ผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับตัวเองเท่าไหร่
ตอนโปรปีแรก 2011
ตอน2012 โค้ชก็เรียกไป ให้จดหมายมาฉบับนึง
ให้ยูจังเป็นคนขว้างเปิดซีซั่น... ฝากด้วยนะ เพื่อทีมของเรา.....
ยูจังก็สงสัยว่า ทำไมถึงให้พิทเชอร์ที่ผลงานไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ขว้างเปิด
(แสดงถึงการเป็นเอซของทีมเลยนะ)โค้ชคุริยาม่าบอกว่า ต้องการพิทเชอร์ที่มีความหวัง และพยายามมุ่งไปข้างหน้าตลอด (น่าน)
คือของไฟเตอร์เนี่ย 5 ปีที่ผ่านมา คนที่ขว้างในเกมเปิดสนาม (เอซ) คือ ดาลวิช ยู
แต่ตอนต้นปี 2012 พี่ดาลได้ลาทีม ไปตามหาความฝันที่เมเจอร์ลีคเรียบร้อย
อยู่ Texasมั้งตอนนั้น
มันก็กลายเป็นว่า ให้ยูจังเป็นเอซ ไฟเตอร์แทนพี่ดาลนั่นเอง
ยูจังมาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ตอนนั้นก็ดีใจอยู่หรอก แต่ประหม่าและกังวลมากกว่า
เลยพูดอะไรออกไปไม่ได้ จะไม่ทำก็ไม่ได้....
และในเกมส์เปิดสนามวันนั้น แข่งกับเซบึไลอ้อน ยูจังก็ชนะมาด้วยการขว้างคนเดียวทั้งเกม
ถือว่าตอบสนองต่อความหวังของโค้ชและกองเชียร์มากๆ
แสดงให้เห็นว่า แม้พี่ดาลจะไม่อยู่ แต่ยูจังก็ทำได้!
Now Kiss <3
แต่หลังจากเดือน 6 เป็นต้นมา 6 การแข่งขัน ยูจังก็ไม่สามารถเก็บแต้ม WIN ได้เลย
แม้เกมจะชนะ แต่คนที่ทำให้เสียรันคือยูจังอยู่ดี
ทำให้ในเดือน 7 ยูจังตกไปในฟาร์ม (ทีม 2) ในที่สุด
นักข่าวก็ทำงานดี ไปสัมภาษณ์ตลอด อยู่ทีม 2 รู้สึกยังไง ใช้ชีวิตอย่างไร เจ็บใจมั้ยที่เคยเป็นถึงอดีตคนดัง บลาๆ
(เกลียดนักข่าวญี่ปุ่นตรงนี้แหละ)
เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด
หลังจากที่ตกมาอยู่ทีม 2 ยูจังก็เกิดเจ็บไหล่ขวาขึ้นมา แต่แรกๆก็ไม่สะกิดใจอะไรเท่าไหร่
จนวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมา ยกไหล่ไม่ขึ้น ไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน
จึงไปหาหมอ ได้ความว่าเอ็นกล้ามเนื้อหัวไหล่ฉีก ประมาณนี้รึเปล่า ไม่แน่ใจอาการ
แต่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
สำหรับพิทเชอร์ อาการบาดเจ็บที่ไหล่สามารถให้หยุดชีวิตในเส้นทางการเล่นเบสบอลได้เลยทีเดียว
ปี2013 ยูจังมาขว้างในทีม 1 แค่ 1 การแข่งขันเท่านั้น และขว้างไปประมาณ4อินนิ่ง
ข่าวออกหลายแบบว่า ยูจังจะหยุดชีวิตเบสบอลไว้เท่านี้มั้ย
นักข่าวไปสัมภาษณ์ไปทำข่าวถึงโรงพยาบาลเลยทีเดียว ช่วงนั้น
(นักกีฬานี่ก็คนของประชาชนนะ)
... และในปี2013 ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่ไฟแรงความสามารถสูงเข้ามา...
โอทานิโชเฮ ขว้างมือขวา 160km/hr
หมั่นไส้ แคปรูปให้มันเหมือนตัวร้าย
โอทานิเป็นผู้เล่นที่ ตีก็เก่ง ขว้างก็เก่ง แรงเยอะ ตอนแรกจะไปเมเจอร์
แต่ก็มาจบที่นิจิแฮมด้วยการเกลี้ยกล่อมของโค้ชคุริยามะ
นับว่าโค้ชเลือกคนไม่ผิดจริงๆ
ระหว่างที่ยูจังโดนส่งไปพักฟื้นยาวๆ โอทานิก็โลดแล่นจน(คิดว่า)ได้เป็นเอซไฟเตอร์กลายๆละ
ในปีเดียวกัน ทานากะ มาซาฮิโระ ก็ได้ทำสถิติใหม่ให้ทีมระกุเต็น
คือขว้างชนะติดต่อกัน 24 ครั้ง จนได้เป็นแชมป์นิปป้งซีรีย์ ที่ 1 ญี่ปุ่น
และในเดือน 1 ปี 2014 มาคุงก็ได้ยืดอกอย่างสง่างาม ไปเมเจอร์ลีค
ทีมNew york yankees เรียบร้อย
แล้วกระแสในอินเตอร์เน็ตก็ทับถมยูจังใหญ่เลยค่ะ
เป็นแชมป์โคชิเอ็งปีนั้นไม่ใช่หรอ ทำไมคนแพ้ไปเมเจอร์แล้วล่ะ?
ยูจังไปมัวทำอะไรที่ทีม2? เปรียบเทียบมาคุงกับยูจังในเน็ตมาไม่เว้นแต่ละวัน
คนมันอยู่ช่วงพักฟื้นมั้ย ยิ่งขว้างก็ยิ่งเจ็บป่ะ5555 (ไม่ได้เข้าข้างยูจังเนาะ )
ในปี 2014
ยูจังกลับเข้ามาที่ทีม 1 อีกครั้ง ในเดือน 7 วันที่ 31
คว้าชัยชนะมาได้จากการขว้างไป6 อินนิ่ง เสียไป 1 รัน 7สไตรค์เอาท์
785 วัน หลังจากชัยชนะครั้งล่าสุด ตอน 2012 นานเหมือนกันนะ....
ยูจังถึงกับจัดแคมเปญจ์ เสื้อเชียร์ตัวละ 785 เยน เลยทีเดียว
(แล้วเราก็ไม่ทันโปรนั้น คนแย่งกันเยอะไป)
ดีใจกับยูจังด้วย
การแข่งครั้งนี้ส่วนมากก็จะขว้างลูกตรง ดวลกันมากกว่าล่ะนะ
ปลายปี2014 ก็มีข่าวลดเงินเดือน ซึ่งยูจังก็โอเคกับมัน
เพราะคิดว่าตัวเองไม่ค่อยได้ทำอะไรให้ทีมซักเท่าไหร่
(นอกจากขายสินค้า)
ส่วนมากยูจังก็ไปใช้ชีวิตในการแข่งอยู่ที่ทีม 2 ซะมากกว่า
ฟีนิกซ์ลีคมั่ง ลีคไหนมั่ง
จริงๆตอนแข่งกับพวกซามุไรเจแปน ยูจังก็ขว้างดีอยู่นะ
ทำไมกันนนน
////////// เสียงบ่นจากแฟนเกิร์ลเสียสติ
อันนี้เกมที่เราดู ประมาณกันยา 2014
ในปี 2015 เดือน 4
ยูจังทำผลงานได้ดีมากที่ทีม 2 จึงได้รับโอกาสกลับเข้ามาขว้างเป็นสตาร์ทเตอร์ในทีม1 อีกครั้ง
ครั้งแรกแข่งกับลอตเต้เมื่อวันที่ 2 เมษา เสียไป 3 รัน ขว้างไป 4อินนิ่ง
( ทีมชนะแหละ เพราะทำแต้มได้เยอะ ชนะไปด้วย 12-9 รัน แต่ผลงานยูจังไม่ค่อยดี)
ส่วนครั้งที่ 2 ตอนวันที่ 17 เมษายน เรานั่งดูอยู่ แข่งกับระกุเต็น แพ้ด้วยคะแนน7-2รัน
ยูจังขว้างไป 3 1/3 อินนิ่ง เสียไป 5 ฮิต 2 วอร์ค 4 รัน
ER 8.22 ซึ่งถือว่ามากเลยทีเดียว (เพราะลงแค่2เกมด้วยเลยไม่มีจำนวนอินนิ่งมาหาร)
ผลงานไม่ดีอย่างรุนแรง
จึงถูกส่งกลับไปเก็บตัว ณ ทีม 2 อย่างไร้กำหนดกลับมา....
ปัจจุบัน ไหล่ของยูจังก็ยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ คิดว่าใจยังสู้อยู่
แม้เจ้าตัวจะบอกว่า
มีโอกาสกลับไปเป็นเหมือนเดิม50% ก็ตามที่
เกร็ดแถมเล็กน้อย
ในรายการนึง ยูจังบอกว่า รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกันนะที่ทุกคนเอาแต่เรียกหาแต่
เจ้าชายผ้าเช็ดหน้าอยู่ไหน
"เลยเกลียดคำว่า เจ้าชายผ้าเช็ดหน้ามาก"
จะให้อธิบายเป็นคำพูดมันก็ยากอยู่ มันเหมือนกับว่า อืม คนนี้เด็กดีๆ อะไรประมาณนี้
มันก็เป็นคำที่พวกสื่อมวลชนสร้างขึ้นมาแค่นั้นแหละ ไม่ใช่ตัวเขาจริงๆ
หลังจากรู้ว่าบาดเจ็บก็มีพวกแฟนๆ เด็กๆส่งกำลังใจมาให้เยอะ
เลยอยากจะพยายามขึ้นไปอีก
นักข่าวสัมภาษณ์เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บบ่อยมาก แล้วก็ความรู้สึกตอนได้อยู่ทีม2 บ่อยมาก
เป็นฉากที่บีบคั้นมาก
สำหรับเรา เราคิดว่าสื่อมวลชนญี่ปุ่นโหดมาก T^T
ให้เกียรติคนตาย แต่ทำร้ายคนเป็น
สุดๆ.......................
จบล่ะค่ะ เข้าใจรึยัง ทำไมเป็นเจ้าชายตกบัลลังก์
คนที่เคยอยู่บนจุดสูงสุด
ตอนนี้ลงมาลงมาเป็นตัวตลกให้พวกๆแอนตี้แฟน สื่อมวลชนประโคมข่าวต่างๆนาๆ
รู้สึกแบบ มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้เลย
ถ้ายูจังไปเป็นโปรซะตั้งแต่ม.ปลาย อะไรจะเกิดขึ้นกันนะ?
เนื่องจาก 6 มิถุนา เป็นวันเกิดของยูจัง นั่นแหละ
เลยมาเขียนเรคคอมเม้นให้ยูจัง (ไม่ใช่ละ)
ถือเป็นโอกาสพิเศษล่ะนะ
รูปจากพวกบอร์ดโม่ง
แม้แต่ขวดน้ำยังแกล้งยูจัง
ยูจังสอนให้เห็นแล้วว่า ชีวิตต้องสู้ต่อไป แม้จะรู้ว่าหนทางข้างหน้ามันลำบากยากเย็นแค่ไหน